ตีแผ่ความสำเร็จ ของ Mega Project ในพื้นที่ EEC Zone
Eastern Seaboard ที่เคยประสบความสำเร็จและเปลี่ยนประเทศไทยจากประเทศเกษตรกรรมเข้าสู่ประเทศอุตสาหกรรม ผ่านมาเกือบ 40 ปี ก็ได้เวลาต้องปรับปรุงแผนการดำเนินการ โครงสร้างพื้นฐาน และกฎหมาย ให้รองรับกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น เป็นอุตสาหกรรมที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ มี 10 อุตสาหกรรม ดังนี้
- อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต
- อุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์อัจฉริยะ
- อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ
- อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร
- อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
- อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
- อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์
- อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
- อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ
- อุตสาหกรรมดิจิทัล
“ธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก”
จังหวัดระยอง ปี 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 7 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 33,226 ล้านบาท
“โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมคือส่วนสำคัญของ EEC”
จะเห็นได้ว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก มีความสำคัญที่ทำเงินเข้าประเทศไทยเป็นจำนวนมาก มีความต้องการจ้างงานจำนวนมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเกือบ 30 ล้านคนต่อปี จึงทำให้โครงสร้างพื้นฐานเป็นหนึ่งใน 8 แผนการพัฒนาพื้นที่ EEC
“สนามบินอู่ตะเภามีการใช้งานเพิ่มขึ้นภายใน 5 ปีที่ผ่านมา”
หลังเริ่มมีสายการบินต้นทุนต่ำมาเปิดบินที่สนามบินอู่ตะเภา จำนวนผู้โดยสารก็เพิ่มขึ้นทุกปี สถิติผู้โดยสารสนามบินอู่ตะเภาปี 2561 มีผู้โดยสารรวม 1,995,363 คน เพิ่มขึ้นมาจากปี 2557 ที่มีผู้โดยสารรวมอยู่ที่เพียง 139,728 คนเท่านั้น และแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกหลังจากการเปิดใช้งานอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในส่วนของปริมาณการจราจรของมอเตอร์เวย์ สาย 7 กรุงเทพ-พัทยา ปี 2559 มีจำนวนรถใช้งานถึง 106 ล้านคัน และหลังจากเปิดด่านเก็บเงินช่วงชลบุรี-พัทยา มีรถเข้าใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 245,300 คันต่อวัน
“สนามบินอู่ตะเภาและรถไฟความเร็วสูง เป็นปัจจัยสำคัญของ EEC”
หัวใจสำคัญของ EEC จึงอยู่ที่โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) เพราะถือว่าเป็นโครงการที่จะดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ EEC เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภานั้นมีแนวคิดว่าจะทำให้สนามบินนี้เป็นสนามบินแห่งที่ 3 ของกรุงเทพมหานคร แต่มีเงื่อนไขว่าต้องสามารถเดินทางไปกรุงเทพหรือมาจากกรุงเทพในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. เมื่อเทียบกับต่างประเทศก็มีสนามบินที่อยู่นอกเมืองแล้วสามารถเดินทางเข้าเมืองในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เช่น สนามบินนาริตะ ใช้เวลาเดินทางเข้าโตเกียวประมาณ 40 นาที – 1 ชั่วโมง สนามบินอินชอน ใช้เวลาเดินทางเข้าโซลประมาณ 40 นาที
“รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน”
อีก 1 โครงการที่เป็นหัวใจสำคัญของ EEC คือรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน มีแนวเส้นทางสร้างใหม่ตามแนวทางรถไฟจากสนามบินดอนเมืองมาถึงสถานีกลางบางซื่อ แล้วไปเชื่อมต่อกับโครงสร้างของ Airport Rail Link ที่สถานีพญาไท เพราะว่าโครงการนี้ได้รวมเอา Airport Rail Link เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เอกชนที่จะมาบริหารงานเดินรถไฟความเร็วสูงก็ต้องบริหารและเดินรถ Airport Rail Link ด้วย รถไฟความเร็วสูงก็จะวิ่งบนเส้นทางของ Airport Rail Link จากนั้นก็จะเป็นเส้นทางที่สร้างใหม่ตามทางรถไฟสายตะวันออก มีสถานีฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และสนามบินอู่ตะเภา ส่วนใหญ่จะอยู่ในแนวเส้นทางและบริเวณสถานีรถไฟเดิม ยกเว้นสถานีฉะเชิงเทราที่ต้องเวนคืนที่ดินสร้างสถานีใหม่อยู่นอกเมือง และสถานีอู่ตะเภา
ความคืบหน้าในปัจจุบันได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว หลังจากเซ็นสัญญาจะใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี
“พัฒนาระบบคมนาคม รองรับสนามบินอู่ตะเภาและรถไฟความเร็วสูง”
นอกจาก 2 โครงการใหญ่แล้ว ยังมีโครงการพัฒนาระบบคมนาคมต่าง ๆ ในพื้นที่ทั้งระบบราง ถนน และระบบขนส่งทางน้ำ เพื่อจะพาผู้โดยสารกระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของ EEC รวมถึงสามารถรองรับการขนถ่ายสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต
ถนน
ระบบถนนในพื้นที่ EEC ถ้าใครได้มาช่วงนี้ ก็จะวุ่น ๆ สักนิดนึงกับการก่อสร้างปรับปรุงขยายถนนหลาย ๆ สาย ขอยกตัวอย่างถนนสายหลัก 3 โครงการ คือ
ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท)
จากสัตหีบ ถึงระยอง มีการปรับปรุงขยายถนนตลอดเส้นทาง บางช่วงขยายเป็น 6 ช่องจราจร บางช่วงขยายเป็น 8 ช่องจราจร แยกใหญ่ ๆ ก็กำลังปรับเป็นทางลอดเช่น บริเวณแยกเนินสำลี จังหวัดระยอง แยก กม.10 อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี
ทางหลวงหมายเลข 36
ก็ปรับปรุงขยายถนนตั้งแต่ช่วงตัดกับมอเตอร์เวย์ไปจนถึงระยอง พร้อมทั้งก่อสร้างสะพานข้ามแยก 4 สะพาน
ทางหลวงหมายเลข 344
ปรับปรุงช่วง บ้านบึง-แกลง ปัจจุบันก็มีความคืบหน้าประมาณ 50%
นอกจากนี้ก็ยังมีการปรับปรุงถนนสายอื่นๆ อีกเกือบ 40 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
มอเตอร์เวย์
มอเตอร์เวย์ปีหน้านี้จะเปิดให้บริการ มอเตอร์เวย์ สาย 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ที่ตอนนี้เหลืองานก่อสร้างเส้นทางบางส่วน และระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง
ระบบขนส่งทางน้ำ
ตอนนี้เราสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทยจากพัทยาไปหัวหินได้ในระยะเวลาแค่ 2 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องขับรถหรือนั่งรถโดยสารไปใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง อนาคตจะมีท่าเรือเฟอรี่ใหม่ที่ท่าเรือสัตหีบ มีพื้นที่กว้างขวางและมีความสะดวกสบาย รองรับเรือเฟอร์รี่ได้หลายสาย ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเรือเฟอร์รี่ อนาคตลงเรือแล้วก็ต่อรถไฟไปเมืองต่าง ๆ ในภาคตะวันออกได้ แต่แผนระยะยาวจะมีการพัฒนารองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ด้วยนอกจากนั้นบริเวณท่าเรือพาณิชย์สัตหีบยังมีอุตสาหกรรมต่อเรือและประกอบแท่นขุดเจาะน้ำมัน
งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเรือเฟอร์รี่ และงานก่อสร้างขยายท่าเทียบเรือหมายเลข 6
ท่าเรือขนสินค้า
ท่าเรือมาบตาพุด อยู่ในระหว่างพัฒนาในเฟส 3 เช่นกัน เมื่อพัฒนาแล้วจะสามารถรองรับสินค้าปิโตรเคมี และก๊าซธรรมชาติได้เพิ่มอีก 19 ล้านตัน ตอนนี้ทั้งท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 ได้เปิดประมูลแล้ว ใกล้จะเซ็นสัญญาในเร็ว ๆ นี้
ทั้งหมดนี้คือภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC จะเห็นได้ว่านี่เป็นโครงการใหญ่ มีส่วนร่วมทั้งภาครัฐ ท้องถิ่นและเอกชน ที่จะทำให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน จำนวนมากในพื้นที่นี้
บทความนี้สนับสนุนโดย
Origin Smart City Rayong
ถ้าพูดถึงโครงการอสังหาที่เกาะแนว EEC โครงการ Origin District ศรีราชา น่าจะเป็นอีกโครงการขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่ใครหาที่พักอาศัยในโซนศรีราชาน่าจะต้องเคยเห็นกัน ด้วยทำเลบนถนนสุขุมวิทตรงข้ามกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา อยู่ไม่ไกลจากนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ใกล้ทางเข้ามอเตอร์เวย์ แต่ยังได้วิวทะเลอยู่
รูปแบบของโครงการที่แหลมฉบัง – ศรีราชาจะเป็นโครงการ Mixed use ที่มีตั้งคอนโดมิเนียมแบบ Low-Rise, High-Rise, Community Mall ด้านหน้าโครงการ และ โรงแรม Holiday Inn ศรีราชา เน้นกลุ่มคนทำงานทั้งคนไทยและต่างชาติที่ทำงานในโซนศรีราชาที่มีนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ อยู่เยอะ
ล่าสุด Origin เปิดโครงการใหม่ ยกเอา Model แบบเดียวกันที่เคยประสบความสำเร็จกับศรีราชามาแล้ว มาตั้งที่ระยองบ้าง แต่มีขนาดโครงการใหญ่กว่าเดิม เป็นโครงการ “Origin Smart City Rayong” พื้นที่กว่า 24 ไร่บนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกเนินสำลี New CBD ใหม่ใจกลางเมืองใหม่ระยอง ไม่ไกลจากสนามบินอู่ตะเภา
โครงการประกอบไปด้วยคอนโดมิเนี่ยมแบบ Low-Rise และ High-Rise ที่สูงที่สุดในระยอง, โรงแรมในเครือ Intercontinental Hotel Group, Community Mall ,Retail ร้านค้ารวมถึง Supermarket ,Serviced Apartment Serviced Office โดยทาง Origin ตั้งใจจะปั้นโครงการนี้ให้เป็น Lifestyle HUB ขนาดใหญ่และเป็น Landmark แห่งใหม่ ใจกลางระยอง
นอกจากทำเลที่ยังอยู่ในเขตเศรษฐกิจ EEC แล้ว โครงการนี้จะมาในคอนเซ็ปต์ “Beyond A Living Platform” พัฒนา 3 แกนสมาร์ท ด้วยเทคโนโลยีการใช้ชีวิต พลังงานสะอาด สังคมเมืองคุณภาพ สร้างแพลทฟอร์มอาณาจักรใหม่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน “ระยอง” บุกเบิกทำเล EEC
SMART TECH
ทรานฟอร์มชีวิต…สู่เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยยุคอนาคต ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาเพื่อยกระดับการใช้ชีวิต และเชื่อมต่อระบบการสื่อสารไร้สายบนเครือข่าย Internet เรียกว่า Internet Of thing (IOT) เพื่อ ตอบสนองการใช้ชีวิตยุคอนาคต ไม่ว่าจะเป็น “Home Automation” ที่ให้คุณควบคุมอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ภายในห้องพัก ด้วย Application และ “Intelligence Facilities” เทคโนโลยีในพื้นที่ส่วนกลางที่ทันสมัย ที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์การชีวิตในยุคดิจิตอล
“Home Automation” ความสะดวกสบาย ที่สั่งได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ด้วย 4 เทคโนโลยี
- Digital Door lock “สมาร์ท” ด้วยการควบคุมการล็อกประตู ผ่าน application
- Motion Sensor Nightlight “สมาร์ท” ด้วยระบบเซนต์เซอร์เปิด- ปิดไฟอัตโนมัติ ช่วยให้พื้นที่ที่มีแสงน้อย ปลอดภัย เพิ่มความสะดวกสบาย เพียงเดินผ่านจุดเซ็นเซอร์ ระบบไฟฟ้าจะทำงานทันที
- Lighting Control “สมาร์ท” ด้วยระบบเปิด-ปิดไฟ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ ผ่านสมาร์ทโฟนในมือคุณ
- Air Control “สมาร์ท” ด้วยระบบการควบคุมและปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศผ่าน Application
Intelligence Facility
พื้นที่ส่วนกลางสุดอัจฉริยะ เพิ่อการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด ใน ‘สมาร์ทแพลทฟอร์ม’ การอยู่อาศัย ได้แก่
- Smart Security ทำให้การอยู่อาศัยปลอดภัยอย่างสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ได้แก่
- VDO Door Phone ระบบรักษาความปลอดภัยอีกขั้น ที่มอบความอุ่นใจ และปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย เพราะสามารถเห็นหน้าผู้มาติดต่อ และสนทนาตอบโต้ได้ โดยติดตั้งไว้บริเวณ Lobby
- Auto Barrier Gate ระบบไม้กั้นอัตโนมัติ พร้อมระบบ Key card เข้า ออกโครงการ
- Plate Recognition ระบบตรวจจับทะเบียนรถยนต์อิเลคโทรนิคส์ เพื่อความปลอดภัย สำหรับผู้เข้า ออกโครงการ
- ระบบ CCTV กล้องวงจรปิดทั่วทั้งโครงการ
- VR Fitness เทคโนโลยีเสมือนจริง ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่ออีกต่อไปด้วย Virtual Reality เทคโนโลยีสร้างโลกเสมือนจริงอันทันสมัย ช่วยให้ผู้เล่นเสมือนได้ไปออกกำลังกายที่ใดๆก็ได้บนโลกนี้
- Smart Locker ระบบล็อกเกอร์อัจฉริยะ รับฝากของ พร้อมใช้งาน 24 ชม. ปลอดภัยผ่าน application ในมือถือ
- WiFi Common Area พร้อมให้คุณเชื่อมต่ออินเตอร์เนท อย่างไร้ขีดจำกัด ในพื้นที่ส่วนกลาง
- Smart Screen กระจกอัจฉริยะติตดั้งในพื้นที่ส่วนกลาง พร้อม Scene Setting Report สามารถรายงานข้อมูลต่างๆ ให้คุณเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
- Google Map Report : รายงานสภาพการจราจร
- Screen Frash Air PM 2.5 : รายงานค่าฝุ่น PM 2.5
- Weather & Temperature forecast : รายงานอุณหภูมิ และสภาพอากาศ
- Paperless Society Announcement : ป้ายประกาศอิเลคโทรนิคส์ ลดการใช้กระดาษ ลดโลกร้อน
- Wireless Charging อุปกรณ์ชาร์ตแบตสมาร์ทโฟนไร้สาย ในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง
- Smart Application : Origin Connect แอพพลิเคชั่นสุดสมาร์ท สำหรับลูกบ้าน Origin ที่สามารถเป็นได้ทั้งตรวจสอบสิทธิพิเศษต่างๆ รับพัสดุ แจ้งซ่อมนิติบุคคล ชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง
Intelligence Facility
เมืองต้นแบบสังคมแห่งพลังงานทดแทน ‘‘ENERGY Management System’’ ต้นแบบแนวคิดการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย และเกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
แพลทฟอร์มนี้ พัฒนาและบริหารจัดการด้านพลังงานไฟฟ้าด้วยเทคโนลียีทันสมัย อย่างมีประสิทธิภาพ สังคมแห่งพลังงานทดแทน จะเกิดขึ้นที่นี่ สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่
- Solar Cell พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานสะอาด ที่ใช้แล้วไม่มีวันหมด ในพื้นที่ส่วนกลางของ Origin Smart City Rayong นี้ สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าส่วนกลาง ลดโลกร้อน
- Smart Shelter สเตชั่นอัจฉริยะ ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่าน Solar Cell ติดตั้ง Smart Screen จออัจฉริยะ ที่สามารถเช็คสภาพจราจร เช็คอุณหภูมิ และสภาพอากาศ เช็คค่าฝุ่น PM 2.5 พร้อมจุด “Wireless Charger’’ สำหรับ Smart Phone พร้อม Bike Sharing พร้อมจุดจอดจักรยาน
- EV Charger สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทำหน้าที่เป็นตัวชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ ภายในพื้นที่ “สมาร์ท ซิตี้”
- Smart LAMP Censor ระบบเปิด ปิดไฟส่วนกลางอัตโนมัติ ผ่านระบบเซ็นเซอร์ ช่วยให้ประหยัดไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายส่วนกลาง
- PEA Hero Platform ระบบการจัดการพลังงานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง การให้บริการด้านการตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าภายใน ‘‘สมาร์ท ซิตี้’’
Intelligence Facility
แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ไลฟ์สไตล์ฮับ สุด ‘‘สมาร์ท’’
อาณาจักรมิกซ์ยูส (MIXED-USE) “สมาร์ท ซิตี้” ที่มอบบริการครบวงจร (One-Stop Services) โดย PLATFORM นี้จะประกอบด้วย คอนโดมิเนียม ที่สูงที่สุดในระยอง,คอมมูนิตี้ มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, LIFESTYLE HUB อย่างร้านกาแฟชั้นนำ CLASS CAFÉ 24 Hours , Co- Working Space ,โรงแรมในเครือ Intercontinental Hotel Group
รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย
Cashless Society : อีกแพลตฟอร์มเพื่อยกระดับการอยู่อาศัย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแทนการใช้เงินสด จ่ายเงินในระบบ Payment รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น E-Payment หรือ QR Code Payment สะดวกสบายมากกว่าที่เคย ได้แก่ Vending Machine เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ พร้อมให้บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอด 24 ชม. Washing Machine เครื่องบริการซักผ้า ให้บริการตลอด 24 ชม.
ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ Origin Property เล็งเห็นศักยภาพ ทำเลระยอง ใน EEC Zone หรือ Eastern Economic Corridor โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก งัดคัมภีร์ “กลยุทธ์ ทะเลสีคราม’’ Blue Ocean ที่เน้น Local Demand ด้วยการเข้าไปเป็นผู้นำในตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ก่อนใคร ซึ่งเคยประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ กับการสร้างอาณาจักร Origin District Sriracha ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ EEC Zone เช่นกัน
“ORIGIN SMART CITY RAYONG” อภิมหาโปรเจคใหม่ นำทัพด้วย 3 แกนสมาร์ท SMART TECH , SMART ECO และ SMART COMMUNITY บนทำเลศักยภาพ EEC ใจกลาง ‘‘ไข่แดง’’ เมืองระยอง
พิกัดโครงการ https://goo.gl/maps/6XF7LfR2xGMzm9y86
เตรียมพบกับ…ปรากฎการณ์ทรานฟอร์มที่อยู่อาศัย สู่รูปแบบการใช้ชีวิตอนาคต ลงทะเบียน คลิ๊ก