เชื่อว่าช่วงนี้ หลายๆ คนน่าจะได้เห็นข่าวรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ทยอยกันอนุมัติ/ก่อสร้างกันหลายสายเลยทีเดียว ซึ่งบางสายก็ก่อสร้างจนใกล้จะได้เปิดให้บริการในอีกปีสองปีข้างหน้านี้แล้ว ส่วนบางสายก็เพิ่งมีการอนุมัติการก่อสร้างในปีที่ผ่านมา สำหรับ █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ก็เป็นรถไฟฟ้าอีกหนึ่งที่เพิ่งจะได้รับอนุมัติในปีที่ผ่านมา แต่ก่อนที่เราจะมารู้จักกับ █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ทีมงานอยากจะพูดถึงภาพรวมของรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ กันก่อนครับ ^^
ภาพรวมรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ
อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยเรามีรถไฟฟ้าครั้งแรกเมื่อปี 2542 นั่นก็คือ █ รถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือที่เราๆ เรียกกันว่า “รถไฟฟ้า BTS” โดยรถไฟฟ้า BTS เอง ก็แบ่งออกเป็นอีก 2 สายคือ
- █ สายสุขุมวิท หรือ สายสีเขียวอ่อน ในตอนแรกเปิดให้บริการตั้งแต่ “สถานีหมอชิต” ถึง “สถานีอ่อนนุช”
- █ สายสีลม หรือ สายสีเขียวเข้ม ในตอนแรกเปิดให้บริการตั้งแต่ “สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ” ถึง “สถานีสะพานตากสิน”
ลักษณะเส้นทางของทั้ง 2 สายสายคือจะเป็นเส้นทางที่วิ่งจากนอกเมืองตัดเข้าไปในเมืองครับ
จากนั้นบ้านเราก็มี █ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน หรือบางคนก็เรียกว่า “รถไฟฟ้าใต้ดิน” (แต่ปัจจุบันสายนี้มีส่วนต่อขยายที่ขึ้นมาบนดินแล้วนะ) เปิดให้บริการในปี 2547 เริ่มต้นเส้นทางจาก “สถานีหัวลำโพง” ถึง “สถานีบางซื่อ” สังเกตว่าสายนี้ลักษณะเส้นทางจะเกือบเป็นวงกลม วิ่งไปบริเวณจุดสำคัญๆ ในเมือง เช่น สีลม, อโศก พระราม 9, รัชดา แทบไม่ได้ไปในส่วนเมืองรอบนอกเลย
หลังจากนั้นอีกซักพักใหญ่บ้านเราก็มีรถไฟฟ้าอีกสาย คือ █ รถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ Airport Rail Link เปิดให้บริการในปี 2553 ลักษณะเส้นทางก็ตามชื่อเลย คือเชื่อมต่อสนามบินเข้ากับในเมืองทั้ง BTS และ MRT โดยมีเส้นทางจาก “สถานีสุวรรณภูมิ” ถึง “สถานีพญาไท”
จนล่าสุดปีกว่าๆ ที่ผ่านมา (2559-2560) ก็ได้มี █ รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เพิ่มขึ้นมาอีกสาย เชื่อมต่อกับ █ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ที่สถานีเตาปูน วิ่งออกนอกเมืองไปทางรัตนาธิเบศร์ไปสุดที่ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกที่สถานีคลองบางไผ่
และเมื่อรวมกับส่วนต่อขยายต่างๆ ที่ทยอยเปิดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น สะพานตากสิน-บางหว้า, อ่อนนุช-สำโรง, บางซื่อ-เตาปูน ปัจจุบัน ระบบรถไฟฟ้าในบ้านเราจะมีหน้าตาอย่างในรูปนี้ครับ
แต่ก็จะเห็นว่าจากรถไฟฟ้าที่เปิดใช้ในอยู่ในปัจจุบัน พื้นที่บางส่วนของกรุงเทพจะยังเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไม่ค่อยสะดวกซักเท่าไหร่
ดังนั้นรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ และส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายเดิมที่ทยอยอนุมัติหรือกำลังก่อสร้างอยู่ ก็จะมาช่วยเพิ่มความครอบคลุมของรถไฟฟ้าในบริเวณที่ถัดออกมาจากในเมืองมากยิ่งขึ้นโดยจะเชื่อมโยงกันเป็นระบบครับ ในภาพนี้คือผังรถไฟฟ้าที่เราจะได้ใช้งานกันในปี 2563-2564
ทีนี้เราลองมาทำความรู้จักกับสายสีชมพูกันบ้าง
จากผังในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บ้านเราจะมีรถไฟฟ้ามาให้ใช้เพิ่มขึ้นอีกเยอะทีเดียว แต่ว่าแต่ละสายก็จะเริ่มมีรูปแบบ และหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปแล้ว อย่างเช่น █ รถไฟฟ้าสายสีแดง ที่เน้นวิ่งออกไปชานเมืองโดยเฉพาะ ก็จะมีสถานีน้อยหน่อย เน้นขนคนเข้าออกเมืองได้อย่างรวดเร็ว
หรืออย่าง █ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่เราพูดถึงในบทความนี้ ก็จะเป็นครั้งแรกที่เมืองไทยจะมีรถไฟฟ้าในรูปแบบรถ Feeder สำหรับพาคนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าหลัก
อะไรคือ “Feeder” ???
จากปกติที่เราจะเห็นรถไฟฟ้าส่วนใหญ่วิ่งจากนอกเมืองเข้ามาในเมือง แต่เส้นทางของ █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู นั้น จะวิ่งจาก ติวานนท์ > แจ้งวัฒนา > รามอินทรา > ไปสุดที่มีนบุรี จะเห็นได้ว่าสายนี้จะไม่ได้แตะเข้ามาในบริเวณกรุงเทพชั้นในเลย เพราะสายนี้เป็น Feeder หรือรถไฟฟ้าที่เน้นในการพาคนจากจุดต่างๆ เข้ามาเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายที่วิ่งเข้าเมืองโดยตรง ซึ่ง █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู เองก็เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าหลายสายมาก ได้แก่
- เชื่อมต่อกับ █ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (ใกล้กับแยกแคราย)
- เชื่อมต่อกับ █ รถไฟฟ้าสายสีแดง ที่ สถานีหลักสี่ (ถนนวิภาวดีรังสิต)
- เชื่อมต่อกับ █ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ที่ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (บริเวณวงเวียนหลักสี่)
- เชื่อมต่อกับ █ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ สถานีมีนบุรี (ใกล้กับแยกรามคำแหง-ร่มเกล้า)
และในอนาคต จะมี █ รถไฟฟ้าสายสีเทา ที่วิ่งจากรามอินทรามาเชื่อมกับ █ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ที่ สถานีทองหล่อ ซึ่งจะมาเชื่อมต่ออีกสายที่ บริเวณแยกรามอินทรา-วัชรพล อีกด้วยครับ
ถือว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นรถไฟฟ้าที่มี interchange ตัดกับสายอื่นค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู
- █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีระยะทาง 34.5 กิโลเมตร เป็นทางยกระดับทั้งหมด ถ้าใครนึกไม่ออกว่ายาวแค่ไหนลองเทียบกับว่า █ BTS สายสุขุมวิท จากหมอชิต-สำโรง รวมกับ █ BTS สายสีลม จากสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า ก็มีระยะทาง 36.45 กิโลเมตรแล้ว สายสีชมพูนี้จึงถือว่าเป็นรถไฟฟ้าที่ยาวมากสายนึงเลยทีเดียว
- มีสถานีทั้งหมด 30 สถานี เฉลี่ยแต่ละสถานีห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตรนิดๆ
- ศูนย์ซ่อมบำรุง ของ █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู จะอยู่บริเวณมีนบุรี-ร่มเกล้า มีอาคารจอดแล้วจรสามารถจอดรถได้ 3,000 คัน
- รถไฟฟ้าสายนี้เป็นการมอบสัมปทานให้เอกชนมาลงทุนทั้งโครงการตั้งแต่การก่อสร้างจนถึงการเดินรถ โดยในสัญญาจะแบ่งเป็นระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน และระยะเวลาสัมปทานเดินรถอีก 30 ปี
- บริษัทที่มารับสัมปทานได้แก่ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด (NBM) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าระหว่างบีทีเอส, ซิโน-ไทย และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ
- รูปแบบของรถไฟฟ้าจะเป็นแบบรางเดี่ยว หรือที่เรียกว่าโมโนเรล
โมโนเรลคืออะไร??
โมโนเรลคือระบบรถไฟที่ตัวรถวิ่งคร่อมหรือแขวนอยู่บนรางอันใหญ่รางเดียว โมโนเรลในระบบขนส่งมวลชนส่วนมากจะเป็นรถไฟล้อยางวิ่งอยู่บน ราง(คาน)คอนกรีต ต่างจาก BTS และ MRT ที่เราๆ คุ้นเคยกันที่เป็นรถขนาดใหญ่กว่า (Heavy Rail) วิ่งบนรางเหล็กแบบคู่
หลายคนอาจจะกังวลว่ารถโมโนเรลจะจุคนพอไหม วิ่งไหวหรือเปล่า จะก๊องแก๊งมั้ย เราอาจจะให้ลืมภาพรถโมโนเรลแบบเดิมๆ หรือที่เคยเจอมาในสวนสนุกออกไปก่อนครับ
เพราะว่ารถโมโนเรลของ █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นรถจาก Bombardier รุ่น Innovia 300 หน้าตาทันสมัยและความจุก็ไม่ได้น้อยอย่างที่คิด เราลองมาดูเหตุผลที่รถไฟฟ้าสายนี้เหมาะกับการใช้โมโนเรลดูครับ
- รถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็น Feeder เชื่อมต่อหลายสาย ดังนั้นลักษณะการใช้งานจะไม่ได้เป็นการพร้อมใจกันไปในทางเดียวกันเหมือนกับรถที่เข้าเมือง แต่ในการใช้งานคนจะกระจายกันไปเข้ารถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ที่ตัดกับสายสีชมพู
- โมโนเรลที่จะใช้กับสายสีชมพู มีความจุรองรับได้ประมาณ 1,000 คนต่อขบวน (6 ตู้) ซึ่งเพียงพอกับปริมาณผู้โดยสารที่คาดการณ์ไว้ และสามารถเพิ่มเป็น 8 ตู้ได้ในภายหลัง เทียบกับ Heavy Rail อย่าง █ สายสีม่วง และ █ สายสีน้ำเงิน ที่รถขนาด 3 ตู้ ก็จะจุคนได้ 1,000 คนต่อขบวนเช่นกัน
- ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 80 กิโลเมตรต่อชม. พอๆ กันกับรถไฟฟ้า BTS และ MRT
- ค่าก่อสร้างถูกกว่า นั่นหมายความว่าด้วยเงินที่เท่ากัน ถ้าเลือกโมโนเรลก็สามารถสร้างได้ไกลมากขึ้น ทำให้คนสามารถเข้าถึงระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น
- ก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากโครงสร้างของโมโนเรลมีขนาดเล็กกว่า Heavy Rail ทำให้สามารถก่อสร้างได้เร็ว โดยในสัญญาก่อสร้างให้เวลาไว้เพียง 3 ปี 3 เดือนเท่านั้น (ต้องรอดูของจริงว่าจะเร็วจริงไหม แต่สายนี้เอกชนสร้างเองนะ สร้างเสร็จเร็วก็เก็บเงินได้เร็ว คืนทุนเร็ว)
สถานที่สำคัญที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่าน
สำหรับสถานที่สำคัญๆ ที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูจะวิ่งผ่าน ทีมงานเคยทำสรุปเอาไว้แล้วครับ สามารถดูได้จากในบทความ “ทำความรู้จักแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู”
เชื่อมต่อเข้าเมืองทองธานี??
เดิมแผนเส้นทางของสายนี้ตอนเปิดประมูลสัมปทานจะวิ่งตั้งแต่แคราย – มีนบุรี ไม่มีเข้าไปทางเมืองทอง แต่กลุ่มบีทีเอส, ซิโน-ไทย และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ (BSR) ได้ยื่นข้อเสนอว่านอกจากจะสร้างตามแผนแล้ว จะสร้างสายแยกที่เชื่อมต่อระหว่าง “สถานีศรีรัช” บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เข้าสู่ในบริเวณ เมืองทองธานี โดยจะมี 2 สถานีเพิ่มเติมได้แก่ “สถานีอิมแพคชาเลนเจอร์” และ “สถานีทะเลสาป”
เนื่องจากส่วนต่อขยายนี้เป็นส่วนที่เสนอเพิ่มมาทีหลัง และ ยังไม่ผ่าน EIA หลังจากนั้นต้องผ่านการพิจารณาของ คณะกรรมการ มาตรา 35 ตาม พรบ.ร่วมทุนอีก เพราะว่าทั้งสองสายเป็นการร่วมลงทุนกับเอกชนและในขั้นสุดท้ายก็จะส่งให้ ครม.อนุมัติโครงการ ก่อนจะเริ่มก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ คาดว่าจะเปิดให้บริการหลังจากที่สายสีชมพูเส้นหลักเปิดครับ
ความคืบหน้าล่าสุด
ล่าสุดรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้เริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างแล้ว โดยเริ่มมีการปิดถนนบริเวณต่างๆ ย้ายสาธารณูปโภคและเริ่มทดสอบเสาเข็มครับ (มกราคม 2560)
หลังจากสายสีชมพูสร้างเสร็จ การเดินทางจะสะดวกขึ้นอย่างไร
แถบติวานนท์
สำหรับด้านถนนติวานนท์ หลังจากที่ █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู เปิดจะสามารถเข้าสู่เมืองได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยการขึ้น █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ไปต่อ █ สายสีม่วง ที่ “สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี” ซึ่งอยู่บริเวณแยกแคราย และสามารถไป █ สายสีน้ำเงิน ที่สถานีเตาปูนได้
นอกจากนี้ในอนาคต (อันไกล) ถ้าหากแผนยังไม่เปลี่ยน ก็จะมี █ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล มาเริ่มต้นที่ “สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี” ด้วยเช่นเดียวกัน โดยสายนี้จะวิ่งไปทาง ถนนงามวงศ์วาน > ผ่านม.เกษตรศาสตร์ > เกษตร-นวมินทร์ > นวมินทร์ > สุดสายที่แยกลำสาลี ซึ่งถ้าสายนี้สร้างเสร็จด้วยก็จะช่วยให้ไปเดอะมอลล์งามวงศ์วานหรือม.เกษตรสะดวกขึ้น เป็นทางเลี่ยงรถติดด้านล่างที่ดีทีเดียว
ทำให้แยกแครายก็จะเป็นอีกหนึ่ง interchange ขนาดใหญ่ของรถไฟฟ้าในย่านนี้ครับ
แถบแจ้งวัฒนะ-รามอินทราตอนบน
สำหรับโซนแจ้งวัฒนะต้องบอกว่าเป็นโซนที่มีความเจริญอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว ทั้งห้าง, ศูนย์ราชการ, ตึกออฟฟิศทั้งหลาย, เมืองทองธานี สิ่งที่ตามมาในย่านนี้แน่นอนคือรถติดครับ
ดังนั้นเมื่อ █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สร้างเสร็จ การเดินทางไปมาในโซนนี้ก็จะมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องใช้แต่ถนนอย่างเดียวเหมือนปัจจุบัน และในแถบนี้ยังใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สายคือ █ รถไฟฟ้าสายสีเขียว กับ █ รถไฟฟ้าสายสีแดง
สำหรับ █ สายสีเขียวส่วนต่อขยาย เมื่อเปิดใช้บริการจะสะดวกสำหรับการไปย่านรัชโยธิน ลาดพร้าว หรือจะนั่งต่อไปถึงสยามก็เปลี่ยนรถแค่ครั้งเดียว
ส่วน █ สายสีแดง เนื่องจากเป็นสายชานเมืองจำนวนสถานีจึงจะถี่น้อยกว่ารถไฟฟ้า metro (BTS/MRT) ในเมืองแบบปกติ ข้อดีก็คือถ้าเราขึ้นจากสถานีหลักสี่ที่เชื่อมกับ █ สายสีชมพู เพียง 5 สถานีก็ถึงสถานีกลางบางซื่อแล้ว ใช้เวลาค่อนข้างจะรวดเร็ว และสามารถเปลี่ยนไปใช้ █ สายสีน้ำเงิน ได้ที่สถานีนี้
และในอนาคต █ สายสีแดง ก็ยังมีโครงการที่จะเชื่อมต่อไปถึงสถานีมักกะสัน ก็จะกลายเป็นว่าขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดงประมาณ 8 สถานีก็สามารถถึงมักกะสัน ที่เชื่อมต่อกับ █ สายสีน้ำเงิน โซนอโศก/พระราม 9 ได้เลย ก็ค่อนข้างเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของแถบนี้ได้ดีทีเดียวครับ จากเดิมที่ต้องเจอรถติดทางด่วนประชาชื่นหรือรถติดที่ถนนวิภาวดีในการเข้าออกเมือง
รวมถึงถ้าหากส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองสร้างเสร็จ ก็น่าจะแบ่งเบาภาระจำนวนรถที่มางาน event ใหญ่ๆ ในแต่ละครั้งได้
(แต่ต้องบอกก่อนว่า █ รถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะเชื่อมต่อไปยังมักกะสันอยู่ในแผน ซึ่งได้รับการอนุมัติแล้วแต่ยังรอรฟท.เปิดประมูล ส่วนสายสีแดงที่จะไปถึงสถานีกลางบางซื่อจะเปิดให้บริการในปี 2563 นี้ครับ ใกล้ๆ กับช่วง █ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สร้างเสร็จพอดี)
แถบรามอินทราตอนกลาง-มีนบุรี
สำหรับโซนนี้ การเข้าเมืองจะสามารถมาใช้ █ สายสีเขียว และ █ สายสีแดง ได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าอยู่ทางมีนอาจจะต้องนั่งมายาวนิดนึง
แต่ในปี 2566 █ รถไฟฟ้าสายสีส้ม จะเปิดให้บริการ ก็จะเพิ่มความสะดวกให้กับคนที่อยู่ในแถบมีนบุรีเข้าเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้นครับ ซึ่ง █ สายสีส้ม ก็เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญอีกสายหนึ่งที่เข้าไปในเมืองผ่านจุดสำคัญๆ หลายแห่งเช่นรามคำแหง, พระราม 9, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีศูนย์วัฒนธรรม, ดินแดง, ราชเทวี เป็นต้น
โดยบริเวณที่ █ สายสีชมพู เชื่อมต่อกับ █ สายสีส้ม จะมีศูนย์ซ่อมบำรุงของรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ด้วย ซึ่งในบริเวณนั้นก็จะมีอาคารจอดรถให้บริการด้วยอีก 1 อาคาร
นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผน █ รถไฟฟ้าสายสีเทา ที่จะวิ่งจาก █ BTS สถานีทองหล่อ มาถึงวัชรพล ผ่านทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ก็จะเป็นอีกเส้นทางที่ช่วยตัดตรงเข้าเมืองสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงรามอินทราตอนกลาง เป็นทางเลือกในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น จากปกติที่เลียบด่วนหลังเลิกงานจะรถติดตลอด (สำหรับสายสีเทาส่วนเหนือนี้อยู่ระหว่างการศึกษา EIA ต้องรอติดตามกันต่อไปครับว่าจะได้ก่อสร้างเมื่อใด แต่รูปแบบโครงการจะเป็น Monorail เช่นเดียวกัน ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะใช้เวลาในการก่อสร้างไม่นานมากนัก)
และนี่ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆ ของรถไฟฟ้าสายสีชมพูนะครับ คราวหน้าเราจะมีอะไรมาฝากอย่าลืมติดตามที่เพจ Render Thailand นะคร้าบบ
เรื่องและภาพ : ทีมงาน Render Thailand
บทความนี้สนับสนุนโดย
NUE NOBLE CHAENGWATTANA
สำหรับคอนโดมิเนียมโครการ NUE NOBLE CHAENGWATTANA เป็นโครงการคอนโดมิเนี่ยม high rise ใหม่ล่าสุดจากทาง Noble ครับ จุดเด่นของโครงการนี้คือทำเลครับ ด้วยตัวที่ตั้งของโครงการเองจะอยู่ห่างจาก █ สายสีชมพู สถานีศรีรัชเพียง 20 ก้าว โดยสถานีนี้จะเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับกับสายสีชมพูที่เข้าไปในเมืองทองในอนาคตด้วยครับ
ในแถบแจ้งวัฒนะเองก็เป็นย่านที่มีความเจริญด้วยตัวเองอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นห้าง, อิมแพ็ค, ออฟฟิศต่างๆ และศูนย์ราชการ บริเวณข้างตัวโครงการจะติดกับห้าง Makro เลย สามารถเดินมาหาของกินได้ หรือถ้าถัดออกไปก็จะมีทั้ง ดิ เอเวนิว,เทสโก้โลตัส, Big C, Central แจ้งวัฒนะ อยู่ในระยะ 1-2 สถานีรถไฟฟ้า หรือจะเข้าไปหาของกินในซอยเมืองทองในซอยนี้ก็มีของกินค่อนข้างเยอะครับ
ราคาเริ่มต้นของที่นี่อยู่ที่ 1.65 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 28 ตารางเมตร หารออกมาแล้ว ตกตารางเมตรละไม่ถึง 60,000 บาท!! ต้องรอดูราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอีกทีหนึ่ง แต่ถ้าราคาไม่หนีกันมากก็น่าจะเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจตัวนึงเลย เทียบกับทำเลติดถนนใหญ่ ติดห้าง ติดรถไฟฟ้าครับ
พื้นที่โครงการ : 3-3-38 ไร่
ลักษณะโครงการ : 31 ชั้น 813 ยูนิต
ประเภทห้อง :
- 1 ห้องนอน 28 : 28 – 28.5 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน 30 : 30 – 31 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน : 45 – 46.5 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน พลัส : 57 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก :
- ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว / ลิฟท์บริการ 1 ตัว
- พื้นที่สีเขียวในโครงการกว่า 5,795 ตร.ม.
- สวนส่วนกลางที่ชั้น G, 4, 31 และชั้นดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำยาวกว่า 30 เมตร
พร้อมอ่างจากุซซี่และสระเด็ก ที่ชั้น 4 - ห้องออกกำลังกายและห้องหนังสือ ที่ชั้น 4
- ห้องจดหมาย ที่ชั้น G
- ห้องนิติบุคคล
- พื้นที่จอดรถ 50%
- กล้องวงจรปิด CCTV 24 ชั่วโมง
- ระบบ Access Control ด้วย Key Card
เข้า-ออกอาคารและพื้นที่จอดรถ - เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
สำหรับพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางถึงแม้ว่าราคาที่นี่จะไม่ได้สูงมาก แต่ส่วนกลางค่อนข้างดูดีทีเดียวครับ มีล็อบบี้ชั้นล่างขนาดใหญ่, ฟิตเนสและห้องอ่านหนังสือที่ชั้น 4, สระความยาว 30 เมตรที่ชั้น 4 เช่นกัน
ดังนั้นใครที่ทำงานอยู่แถวนี้ หรือกำลังหาคอนโดซักที่ในราคาที่มนุษย์เงินเดือนจ่ายไหวแต่ก็ยังเป็นทำเลที่ยังพอเข้าเมืองได้สะดวกรอบข้างมีความเจริญ NUE NOBLE ก็น่าจะเป็นตัวเลือกอีกตัวที่น่าสนใจครับ
สำหรับใครที่สนใจโครงการ NUE NOBLE CHAENGWATTANA
ชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ และจะเปิดจองวันที่ 25 มีนาคมนี้
ลงทะเบียนรับส่วนลดออนไลน์ 20,000 บาท* ผ่อนเพียง 5,000 บาท / เดือน* ที่ https://goo.gl/8B7QsK